ทำไม “งาช้าง” ถึงมีความสำคัญกับช้าง?

ทำไม “งาช้าง” ถึงมีความสำคัญกับช้าง?

“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างรึเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาว ยาว เรียกว่างวง มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา” จากเพลงที่เราเคยร้องในวัยเด็กสุดฮิตของเด็กไทย แต่ทราบหรือไม่ว่า งาช้างคืออะไร มีหน้าที่อะไรและมีประโยชน์อย่างไรกับช้างบ้าง

“งาช้าง” คือ ฟันตัดแถวบน (Incisor) ที่งอกออกมาจากปากของช้าง ช้างแอฟริกันจะมีงายื่นออกมาทุกตัว ในขณะที่ช้างเอเชียจะมีเพียงช้างตัวผู้บางตัวเท่านั้นทีมีงายื่นออกมา ประเทศไทย เรียกช้างตัวผู้ที่มีงายาวว่า “ช้างพลาย” และช้างตัวผู้ที่งาไม่ได้ยื่นออกมา เรียกว่า “ช้างสีดอ” ส่วนช้างตัวเมีย เรียกว่า “ช้างพัง” ในบางกรณี เราอาจพบว่าช้างพังก็มีฟันคู่ดังกล่าวยื่นออกมาเกินริมฝีปากได้เช่นกัน เราจะเรียกฟันคู่นี้ว่า “ขนาย”

งาช้างมีองค์ประกอบคล้ายฟันของมนุษย์ โดยโครงสร้างของงาประกอบด้วย ชั้นในสุดเป็นโพรงประสาทงา (Pulp cavity) ซึ่งมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เลือดมาหล่อเลี้ยงและเซลล์ต่างๆ โพรงประสาทงาเชื่อมต่อกับกะโหลกบริเวณช่องทางเดินหายใจ (Nasal cavity) โดยโพรงประสาทงายาวประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวงา ชั้นต่อมาของงาเป็นเนื้องา (Dentine) ซึ่งเป็นองค์ประกอบใหญ่กว่า 95% ของงา หรือเราอาจเรียกว่าเนื้องา มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่สะสมแร่ธาตุ แข็งคล้ายกระดูก และชั้นนอกสุด คือ ส่วนเคลือบงา (Cementum) ที่เป็นเนื้อเยื่อสะสมแร่ธาตุชั้นนอกช่วยยึดงาตึดกับกระดูก

งาช้าง
ช้างตัวผู้มีงายาวเรียกว่า “ช้างพลาย”, ภาพโดย Anrita1705 จาก Pixabay.com

งาช้างสามารถงอกยาวได้เรื่อย ๆ ตลอดชีวิตของช้าง จึงทำให้งาช้างสามารถบอกความอาวุโสได้ หากไม่หักออกไปเสียก่อน แต่ส่วนใหญ่งาช้างป่าจะไม่ค่อยยาว เพราะช้างป่ามักจะคอยลับงาอยู่เสมอ โดยแทงงากับต้นไม้ ริมตลิ่ง ลําห้วย และโป่ง บางครั้งงาจึงหักหรือหลุด ซึ่งทำให้เราพบเห็นช้างงาเดียว ช้างงาบิ่น ได้ตามธรรมชาติ ช้างยังสามารถใช้งาในการขุดหาน้ำ หรือขูดต้นไม้เพื่อกินเปลือกไม้ ใช้เปิดเส้นทางด้วยการงัดกิ่งไม้ออก นอกจากนี้ ช้างยังใช้งาป้องกันตัว และต่อสู้กันระหว่างเพศผู้ ซึ่งเราคงได้ยินข่าวมาบ้างว่า ช้างบาดเจ็บมีรอยงาแทงเข้าไปที่ลำตัวจากการต่อสู้

งาที่ยื่นออกมาเกินจากริมฝีปากเล็กน้อยของช้างพังหรือช้างสีดอ จะเรียกว่า “ขนาย”, ภาพโดย Anrita1705 จาก Pixabay.com

งา กับ ความอยู่รอด

พรานล่าช้าง เลือกที่จะยิงหรือวางยาพิษให้ช้างตาย ก่อนที่จะนำงาช้างออกมาจากโคนซึ่งอยู่ติดกับกะโหลก หากช้างยังไม่ตายก็จะเสียเลือดมาก และมีโอกาสเกิดการอักเสบ เนื่องจากการดึงงาออกมาจากตัวช้าง หมายถึงการฉีกขาดของเนื้อเยื่อและเส้นประสาทจำนวนมากที่ยึดติดอยู่กับกะโหลกช้าง ผลของการล่าช้างยังส่งผลระยะยาวต่อวิวัฒนาการ เช่น กรณีของช้างป่าในประเทศศรีลังกา ผลจากการล่าช้างเอางามาอย่างยาวนาน ทำให้ประชากรช้างป่าเพศผู้รุ่นใหม่กว่า 93% เป็นช้างที่ไม่มีงา และการล่าช้างงาออกจากประชากร ยังอาจส่งผลเชื่อมโยงต่อสุขภาพช้างโดยรวมในประชากรนั้น เนื่องจากมีบางงานวิจัยบ่งชี้ว่า ช้างที่มีงายาว จะพบปรสิตในกองมูลได้น้อยกว่าช้างที่มีงาสั้น หรืออีกนัยหนึ่งช้างที่มีงายาว มีความสัมพันธ์กับความต้านทานต่อปรสิต เหมือนการคัดเลือกช้างที่มีสุขภาพดี มีพันธุกรรมสุขภาพดีออกจากกลุ่ม การที่ล่าช้างที่มีงาออกไป อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชากรช้างป่าในระยะยาว

งาช้างจึงไม่ใช่แค่ฟันที่งอกออกมา แต่ยังทำหน้าที่คล้ายมือ อาวุธ และเครื่องตรวจวัดสุขภาพของเหล่าช้าง

เอกสารอ้างอิง

อารี พลดี. (2556). งา. สืบค้นจาก http://www.royin.go.th/?knowledges=งา-๑๑-กรกฎาคม-๒๕๕๖.
Cerling, E. T., Barnette, J. E., Chesson, L. A., Douglas-Hamilton, I, Gobush, K. S., Uno, K. T., Wasser, S. K. and Xu, X. (2016). Radiocarbon dating of seized ivory confirms rapid decline in African elephant populations and provides insight into illegal trade. Proceedings of the National Academy of Sciences.113(47):13330-13335. DOI: 10.1073/pnas.1614938113.
Kurt, F., Hartl, G. and Tiedemann, R. (1995). Tuskless bulls in Asian elephant Elephas maximus. History and population genetics of a man-made phenomenon. Acta Theriol. 40: 125–144. DOI:10.4098/at.arch.95-51.
Watve, M.G. and Sukumar, R. (1997). Asian elephants with longer tusks have lower parasite loads. Current Science. 72(11), 885-889.